ความจริงเกี่ยวกับน้ำตาล
1. น้ำตาลเพื่อการบริโภค
      น้ำตาล หรือซูโครส (Sucrose) สำหรับการบริโภค หรือ Table sugar เป็นสารประกอบ ระหว่างโมเลกุลของ กลูโคลส (Glucose) และฟรุคโตส (Fructose) ซึ่งสามารถหาได้จากอาหารธรรมชาติชนิดต่างๆ ได้แก่

2. น้ำตาลเป็นสารอาหารที่ให้พลังงาน
น้ำตาลเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตได้จากธรรมชาติ และเป็นสารอาหารหลักประเภทคาร์โบไฮเดรท (แป้ง และน้ำตาล) ที่ให้พลังงานต่อร่างกาย โดยในกระบวนการย่อยอาหารคาร์โบไฮเดรทจะถูกย่อยเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว (Single molecule sugar) และซึมซับเข้าสู่กระแสเลือดส่งผ่านไปสู่เซลล์ของร่างกาย เพื่อใช้เป็นพลังงานสำหรับการทำงานของเซลล์ ดังนั้น น้ำตาลจึงเป็นแหล่งพลังงานที่มีคุณค่าซึ่งให้พลังงานแก่ร่างกาย และมีราคาถูก
3. น้ำตาลเป็นแหล่งสร้างรายได้
น้ำตาลที่ผลิตใช้ในการบริโภคส่วนใหญ่ผลิตจากอ้อย (Sugar cane) และบีท (Beet) โดยบีทจะปลูกในพื้นที่เขตภูมิอากาศเย็น ส่วนอ้อยปลูกในเขตภูมิอากาศอุ่น อยู่ระหว่างเส้นรุ้งเหนือและเส้นรุ้งใต้ 35 องศา และผลผลิตน้ำตาลโลกมากกว่า 70% ผลิตจากอ้อย ซึ่งเป็นพืชเกษตรที่สำคัญที่สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในประเทศต่างๆ โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนา โดยในประเทศไทยมีเกษตรกรชาวไร่อ้อยมากกว่า 600,000 ครอบครัว

4. ประโยชน์ของน้ำตาล
น้ำตาลใช้ในการประกอบอาหารเพื่อประโยชน์ในด้านต่างๆ ได้แก่
- ช่วยเพิ่มรสชาติ
- ใช้ถนอมอาหาร เช่น อาหารประเภทแยม เยลลี่ และอาหารประเภทเชื่อม เป็นต้น
- ใช้เพิ่มจุดเดือด หรือลดจุดเยือกแข็งในอาหาร
- ใช้ในการหมัก
- น้ำตาลเมื่อทำปฏิกิริยากับกรดอะมิโน (Amino acid) ทำให้อาหารเกิดสีและกลิ่นที่น่ารับประทาน ซึ่งช่วยทำให้รสชาติ และเปลี่ยนสีทองของอาหารประเภทอบ เป็นต้น
- ช่วยลดความชื้น ทำให้อาหารกรอบ
- ใช้เป็นส่วนผสมยา
5. น้ำตาลและการลดความเสี่ยงของการขาดสารอาหารบางประเภท
ในหลายประเทศ มีการเคลือบน้ำตาลด้วยสารอาหารที่จำเป็นของร่างกาย เพื่อลดความเสี่ยงของการขาดสารอาหารบางประเภทที่ทำให้เกิดโรค เช่น ในประเทศแถบภูมิภาคอมริกากลาง มีการเคลือบน้ำตาลด้วยวิตามิน เอ เพื่อลดความเสี่ยงของโรคตาบอด หรือเคลือบสารไอโอดีนเพื่อป้องกันโรคคอพอก เป็นต้น
6. อัตราการบริโภคน้ำตาล
อัตราการบริโภคน้ำตาลต่อหัวของประชากร จะคิดเป็นหน่วยกิโลกรัมต่อคนต่อปี โดยทั่วไป จะคำนวณอัตราการบริโภคจากปริมาณน้ำตาลที่ผลิตใช้ในประเทศและน้ำตาลนำเข้าเพื่อบริโภค หารด้วยจำนวนประชากรทั้งหมด อย่างไรก็ดี การคำนวณอัตราการบริโภคด้วยวิธีดังกล่าวอาจมีความคลาดเคลื่อน เนื่องจากน้ำตาลสามารถนำไปใช้ได้ทั้งในการทำอาหารสำหรับการบริโภคและใช้ผลิตผลิตภัณฑ์ที่มิใช่อาหารด้วย
7. การบริโภคน้ำตาลที่เหมาะสม
สารอาหารที่ใช้ร่างกายของคนเรานำไปใช้ในการสร้างพลังงานทั้งหมดนั้น มากกว่าครึ่งหนึ่งได้จากอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต และโดยที่ร่างกายจำเป็นต้องได้รับสารอาหารในแต่ละวันอย่างหลากหลาย ดังนั้น จึงไม่ควรปริโภคอาหารประเภทใดประเภทหนึ่งมากหรือน้อยเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดการขาดสารอาหารที่จำเป็น และนำไปสู่การเกิดโรคได้
การบริโภคอาหารอย่างสมดุล เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่จำเป็นครบถ้วน เป็นการป้องกันโรคที่ดีที่สุด และน้ำตาลมิใช่เป็นต้นเหตุของการเกิดโรค
โดยในปัจจุบันยังไม่มีผลการศึกษาวิจัยใดๆ ที่บ่งชี้ว่าชัดเจนว่าน้ำตาลเป็นต้นเหตุของโรคอ้วน โรคหลอดเลือดหัวใจ เบาหวาน และโรคฟันผุ  คนเราควรบริโภคอาหารชนิดต่างๆ อย่างหลากหลาย เพื่อให้ได้สารอาหารครบถ้วน และเพียงพอต่อความจำเป็นของร่างกาย เช่น คนที่ใช้แรงงานหรือใช้กำลังกายมาก ต้องการอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตมากกว่าคนที่ใช้แรงงานน้อย

ดังนั้น การรักษาสุขภาพให้แข็งแรง และปลอดโรคภัย นั้น ควรรับประทานอาหารที่ครบถ้วน ปลอดภัย และถูกสุขอนามัย รวมทั้งควรทั้งออกกำลังการอย่างสม่ำเสมอ